ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น “Juvenile Justice” หญิงเหล็กศาลเยาวชน ผู้พิพากษาท้าชนอาญชากรเด็ก

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น “Juvenile Justice” หญิงเหล็กศาลเยาวชน ซีรีส์มุมมองความคิดของเยาวชนที่กลายมาเป็น “อาชญากรเด็ก”

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น ซีรีส์ที่ฉายทาง Netflix ติดท็อปตั้งแต่เข้าฉายอย่าง “Juvenile Justice” หญิงเหล็กศาลเยาวชน นำแสดงโดย “คิมฮเยซู” รับบทเป็น “ชิมอึนซอก” ผู้พิพากษาศาลเด็ก, “อีซองมิน” รับบท “คังวอนจุน” ผู้พิพากษาอาวุโส และ“คิมมูยอล” รับบท “ชาแทจู” ผู้พิพากษาแผนกคดีเยาวชน

“Juvenile Justice” หญิงเหล็กศาลเยาวชน เป็นผลงานการกำกับของ “ฮงจงชัน” (Hong Jong-Chan) ที่เคยมีผลงานกำกับซีรีส์มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งคราวนี้เขาได้หยิบมุมมองเกี่ยวกับเรื่องกฏหมาย โดยเฉพาะแง่มุมที่แทบไม่มีใครเคยหยิบจับมาก่อนอย่าง กระบวนการยุติธรรมคดีเยาวชน มาเล่าผ่านซีรีส์เรื่องนี้ ผ่านมุมมองการเขียนบทของ “คิมมินซอก” (Kim Min-Seok)

ซีรีส์กฎหมา ที่เล่นกับประเด็นเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีอายุไม่เกิน 14 ปีและยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม้ต้นเรื่องจะพูดถึงเด็ก แต่ประเด็นที่ซีรีส์สื่อสารออกมากลับเข้มข้นและบอกเลยว่าไม่ได้มาเล่นๆ ทั้งตัวบทละครและนักแสดงที่เรียกได้ว่าจัดจ้านสุดๆ ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น แม้ว่าภายนอกท่านผู้พิพากษาจะดูเป็นคนแข็งๆ และไม่นิยมการเข้าสังคม ไม่อ่อนโยนต่อเด็ก ผิดกับเพื่อนผู้พิพากษาร่วมห้องที่รับบทโดยคุณ คิมมูยอล ที่ดูอบอุ่น อ่อนโยน ยิ้มเก่ง ไปอย่างสิ้นเชิง แต่ลึกๆแล้วนอกจากตัวละครผู้พิพากษาหญิงแกร่งจะเป็นคนเข้าอกเข้าใจแล้ว

เธอยังมีปมที่เป็นจุดอ่อนแอที่จะเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นอีกคนได้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าในตัวละครเดียว ทำให้เราได้เห็นหลายๆแง่มุมที่สื่อสารผ่านสายตา สีหน้า ไปจนถึงน้ำเสียงที่ถูกเลือกใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป เรียกได้ว่างานละเอียดจากนักแสดงระดับตำนานจริงๆ พอบวกกับออร่าความเท่ของคุณแม่ ก็ยิ่งทำให้บทผู้พิพากษาไม่เพียงน่าเชื่อถือและดุดันเท่านั้น แต่ยังชวนให้ใจสั่นกับความมีเสน่ห์ของเธอสุดๆ

ซึ่งซีรีส์ก็มีความยาวทั้งหมด 10 ตอน ถือว่าไม่ยาวเลยจนแฟนๆอยากให้ภาคต่อ แม้จะเล่าเรื่องด้วยคดีไม่กี่คดีและไม่ได้โหดมากเท่าที่คาดหวังจากตัวอย่าง แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละตอนก็เชื่อมโยงให้เห็นประเด็นที่สำคัญๆในวงการยุติธรรมในเยาวชน ทั้งเรื่องกระบวนการทำงาน คนทำงาน แนวคิดที่แตกต่างกัน

ได้มาเห็นการทำงานขององค์กร ภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมในเยาวชน แนวคิด การปฏิบัติจริง ผลคาดหวัง ผลจริง หน่วยงานย่อยที่เข้ามาเกี่ยข้อง การทำงานที่ลงลึกถึงผู้ปกครอง แนวคิดที่นำมาสู่รูปแบบการทำงานแบบนี้ และว่าไปไกลถึงเรื่องที่มีแนวคิดที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กฎหมายเยาวชนอีกด้วย

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น

เรื่องราวของผู้พิพากษาใน “Juvenile Justice” หญิงเหล็กศาลเยาวชน ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น เรื่องราวของหญิงสาวแสนเย็นชาที่เป็นผู้พิพากษาคดีเยาวชน ที่สุดแสนจะเกลียดชังเด็กผู้กระทำผิด ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก ซีรีส์ที่จะมาเปลี่ยนมุมมองความคิดต่อเยาวชนสู่การเป็น “อาชญากรเด็ก” ซึ่งก่อคดีร้ายแรงไม่แพ้ผู้ใหญ่เลย ทั้งฆ่าหั่นศพ, ค้าประเวณี, ค้ายาเสพติด, ฉ้อโกง, ทำร้ายร่างกาย

“Juvenile Justice” หญิงเหล็กศาลเยาวชน ว่าด้วยเรื่องราวคดีความในศาลแขวงแผนกคดีอาญาเด็กและเยาวชน เขตยอนฮวาของเกาหลีใต้ เปิดฉากด้วยคดีสะเทือนขวัญฆ่าหั่นศพเด็กชายวัย 8 ขวบ แล้วนำชิ้นส่วนไปซ่อนไว้บนชั้นดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ก่อนที่เด็กชายวัย 13 ปีจะเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้วอ้างว่า เขาเป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพจนกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก

และเมื่อเผือกร้อนตกไปอยู่ในมือของ “ชิมอึนซอก” (รับบทโดย คิมฮเยซู) ผู้พิพากษาหญิงคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการ เธอผู้มีสีหน้า แววตา และบุคลิกเยือกเย็นดุจดั่งราชินีน้ำแข็ง มาพร้อมชื่อเสียงที่เลื่องลือถึงความโหดระดับเต็มสิบ ผู้พิพากษาชิมอึนซอก มีคติประจำตัวว่า “ฉันเกลียดอาชญากรเด็ก”
นี่เป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยปรานีเมื่อต้องขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดีในศาล เพราะเธอมักจะพิจารณาโทษสูงสุดให้กับเยาวชนหลายคดี

จนเป็นที่เข็ดขยาดของเหล่าผู้ปกครองและอาชญากรเด็กหลายต่อหลายคน หากแต่ภายใต้ความเย็นชา จริงจังและลึกลับ เธอกลับมีปมฝังใจในอดีตซึ่งทำให้เธอไม่เคยอ่อนข้อให้กับการกระทำความผิดของเยาวชน ที่เหมือนกับผู้พิพากษาคนอื่นๆ ซึ่งมักจะพิจารณาโทษไม่รุนแรงจนทำให้เด็กแสบบางคนมองเห็นช่องโหว่ของกฎหมายเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปี เลยทำให้พวกเขาไม่สำนึกผิด แถมเธอยังเป็นขาลุยลงสนามตามสืบคดีเองไม่ง้อตำรวจ

ซึ่งแค่ในแรกๆเราก็อาจจะต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่ออาชญากรเด็กกันใหม่ เพราะว่าบางทีพวกเขาอาจไม่ได้ใสๆไร้เดียงสาอย่างที่คิด แต่กลับตรงกันข้ามกับผู้พิพากษา “ชาแทจู” (รับบทโดย คิมมูยอล) ผู้มีบุคลิกอบอุ่น อ่อนโยน และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นโดยเฉพาะเยาวชน

แต่ทว่าภายใต้ความอ่อนโยนดุจพ่อพระและความเมตตาอารี ผู้พิพากษาชาก็มีปมฝังใจในวัยเด็กที่รุนแรงเช่นกัน นั่นทำให้เขาลุกขึ้นมาปกป้องเยาวชนอย่างสุดความสามารถ ซึ่งในทีแรกเองผู้พิพากษาชาไม่ค่อยถูกชะตากับการทำงานของผู้พิพากษาชิมเท่าไหร่ ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก

จะเห็นได้จากการเปิดฉากด้วยการพบปะเยาวชนพ้นโทษเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใส ในขณะที่ผู้พิพากษาหญิงแกร่งกลับไม่แย่แสและเย็นชาจนเขาไม่พอใจ แต่กลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องทบทวนความคิดตัวเองอีกครั้ง ถึงกับมองผู้พิพากษาชิมในมุมใหม่และยอมคล้อยตามวิธีการอย่างรุนแรงชนิดที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ เพราะเธอพยายามค้นหาความจริงอย่างถึงที่สุดเพื่อคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของศาล

เพื่อมาปกป้องเหยื่อตัวจริง และครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายให้ได้รับความยุติธรรม ตัวซีรีส์ยังนำเสนอการทำงานของผู้พิพากษาที่ไม่ใช่แค่ยึดหลักตามตัวบทกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ก็จะต้องนำหลักจิตวิทยามาประกอบการพิจารณาคดี รวมไปถึงการตัดสินบทลงโทษที่สมน้ำสมเนื้อ

ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เกรงกลัวกฎหมาย อีกทั้งยังสอดแทรกการกระทำความผิดเล็กๆในบางตอน อย่างเช่นการล้วงกระเป๋า ลักทรัพย์ สูบบุหรี่ และหนีออกจากบ้าน ซึ่งจริงๆแล้วพฤติกรรมเหล่านี้อาจลุกลามบานปลายกลายเป็นอาชญากรร้ายแรงในอนาคตได้เช่นเดียวกัน

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น

ซีรีส์แนวกฏหมายของเกาหลี รับประกันเลยว่าจัดจ้านถึงพริกถึงขิงแน่นอน

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น “เด็ก” และ “เยาวชน” คือตัวสื่อความหมายตรงตัวถึงคอนเซ็ปต์เรื่องนี้โดยตรง หญิงเหล็กศาลเยาวชน ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก เรื่องราวอาชญากรรมในเด็กได้ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้มข้นและน่าหดหู่ เล่นประเด็นตั้งแต่ปัญหาภายในครอบครัว, การศึกษา, ความรุนแรงทางเพศ และปัญหาของระบบกฎหมายและศาลที่อาจทำให้เยาวชนทำผิดได้ซ้ำๆแบบที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ทำให้เนื้อเรื่องดูละเอียดอ่อนและทัชหัวใจคนดูมากๆ ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก

การเล่าเรื่องคือละเมียดละมัยแบบสุดๆ การพูดถึงอาชญากรที่เป็นเด็กมันดูหดหู่และน่าสงสารในบางคน แต่พอมามองในด้านของเหยื่อมันก็ดูน่าเห็นใจมากๆ เพราะจะคิดว่าแค่เป็นเด็กแล้วสามารถทำอะไรก็ได้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เพราะเหยื่อก็ได้รับวามเสียหายไปแล้วเช่นกัน ไม่ว่าคนที่ลงมือกระทำจะอายุเท่าไหร่

ในเรื่องจะมีข้อคิดให้เราได้อึ้งอยู่มากมายตลอดทั้งเรื่องเลย แล้วแต่ละตอนคือเข้มข้นถึงใจทั้งนั้น แถมตีแผ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในสังคมได้ดีอีกด้วย แอบมีคำเตือนนิดนึงคือการดูซีรีส์เรื่องนี้แบบรวดเดียวจบอาจจะทำให้คุณจิตตกเอาได้ ให้พักเบรกอารมณ์ออกมาจากซีรีส์เป็นช่วงๆ

ซึ่งเรื่องราวในคดีแรกเรียกว่าหยุดดูต่อไม่ได้แน่นอน เพราะมันเป็นอะไรที่เราเห็นได้ในความเป็นจริงในปัจจุบัน และส่วนใหญ่ก็คงมองเห็นว่าเป็นความไม่ยุติธรรมทางกฎหมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในหลายๆประเทศ รวมไปถึงไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวเรื่องเปิดประเด็นเรื่องการแก้กฎหมายเรื่องนี้ไว้ว่า

ควรยกเลิกไปเลยใช้กฎหมายเดียวกับผู้ใหญ่ หรือเพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น หรือควรเน้นเพิ่มจำนวนความช่วยเหลือกับเด็กมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งตัวเรื่องพยายามเล่นปมนี้สอดแทรกไว้ตลอด เพื่อนำมาใช้เป็นเรื่องราวใหญ่ในตอนหลัง ซึ่งสะท้อนออกมาให้เราเห็นว่า

เพราะเหตุใดเด็กและเยาวชนเหล่านั้น ถึงกลายมาเป็นอาชญากรตั้งแต่วัยเยาว์ ซึ่งสาเหตุที่สาคัญที่สุดก็คือครอบครัว หรือคนที่เป็นพ่อแม่นั่นเอง แน่นอนว่าต้องมีการรื้อปมต่างๆที่เด็กต้องเผชิญในครอบครัวเดี่ยวขึ้นมา ทั้งความโดดเดี่ยวที่เกิดจากการขาดความเอาใจใส่ ไปจนถึงถูกทำร้ายร่างกาย การบังคับขู่เข็ญกระทั่งสร้างบาดแผลไว้ในใจลูก จนลูกต้องออกไปเผชิญกับสังคมภายนอกอย่างว้าเหว่ โดดเดี่ยวและถูกสิ่งแวดล้อมชักจูงให้กระทำความผิดในที่สุด

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น

“เด็ก” ก็คือคนคนหนึ่งที่สมควรจะรับโทษตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด หากสังคมและครอบครัวไม่สามารถดูแลเด็กให้กลายเป็นคนดีได้

บางครั้งที่ผู้ใหญ่หรือคนเรามักจะมองว่าเด็กคือผ้าขาว เด็กคือความบริสุทธิ์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างหรือแม้แต่การกระทำผิดกฏหมายก็เป็นไปเพราะไร้เดียงสา แต่แท้จริงแล้ว ถ้าพูดกันแบบใจร้ายก็คือ แม้อาชญากรเด็กบางคนจะก่อคดีด้วยเหตุสุดวิสัย แต่บางครั้งก็ไม่น่าสงสารเอาเสียเลย ยิ่งถ้าเด็กคนไหนที่มีแบ็กดี

หรือมีผู้ปกครองมีทนายคอยช่วย ก็ยิ่งทำให้คดีความยุ่งยากซับซ้อนหัวจะปวดไม่ต่างจากคดีผู้ใหญ่เลย แม้บางตอนจะไม่เร้าใจเหมือนคดีแรกที่ชูประเด็นจิตเภทและการฆ่าหั่นศพ เป็นคดีชวนให้เราเห็นพ้องคล้อยตามว่า การดำเนินคดีอาญาเด็กและเยาวชนควรเปลี่ยนบทลงโทษให้เทียบเท่ากับผู้ใหญ่

แต่ก็ถือว่าสลับสับเปลี่ยนอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างน่าติดตาม และเล่าเรื่องได้กระชับไม่หนืด หลายๆตอนยังสามารถหยิบยกมาเป็นบทสนทนากับเพื่อนๆได้ด้วยว่ารู้เท่าไม่ถึงการ ยังใช้ได้ผลในสังคมยุคใหม่จริงหรอ ถ้าอาชญากรเด็กเหล่านั้นต่างก็รู้สึกตัวดี มีเจตนาและบางคนถึงกับมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ

มิหนำซ้ำยังกลับไปทำผิดรูปแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเดิม ซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมจากเกาหลีใต้ที่มีคุณภาพดีมากทุกด้าน ตอบโจทย์ทั้งความสนุกพื้นฐาน มีเรื่องดราม่าเข้มข้นชวนติดตามอยู่ตลอด มีจังหวะและการลำดับเรื่องที่ดี มีการให้ข้อมูลเรื่องกฎหมายที่ดีและเนื้อหามีคุณค่ากับสังคม

ซีรีส์ดราม่าเข้มข้น

แต่ละตัวละครคือดีงามมากๆ พล็อตเรื่องจี้จุดขั้วหัวใจสนุกห้ามพลาดเด็ดขาด

ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก เพราะอะไรทำไมเด็กคนๆหนึ่งถึงได้ก่อเหตุที่ร้ายแรงเช่นนี้ หรือเพราะว่าตัวกฎหมายที่มีแต่ช่องโหว่ อย่างพ.ร.บ.ศาลเยาวชน ที่ซีรีส์พยายามสื่อสารทุกตอนว่าควรเพิ่มหรือลดโทษหรือไม่ จึงจะเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ สิ่งแวดล้อม ครอบครัว คนรอบข้าง รวมไปถึงภาครัฐก็เป็นส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุกวันนี้

คดีเยาวชนเป็นอีกคดีที่เราไม่ควรละเลย การตัดสินโทษที่รุนแรงไม่ได้หมายความถึงความเกลียดชัง แต่เป็นการสั่งสอนเพื่อให้หลาบจำในกฎหมายและไม่ประพฤติซ้ำอีก เพราะเยาวชนคือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้ประเทศนั้นน่าอยู่ และหากประเทศเรามีผู้พิพากษาชิมอึนซอกสัก 1 คน

โลกของเยาวชนคงน่าอยู่ขึ้นไปอีกไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ด้วยทักษะการแสดงที่ล้นเหลือ ทำให้ทั้งสองคนนำคาร์แรกเตอร์ตัวละครที่ต่างกันสุดขั้ว ออกมาเป็นคู่หูที่แสนเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ คนหนึ่งร้อนแรง มีไฟยุติธรรมที่พร้อมจะปะทุอยู่ตลอดเวลา ส่วนอีกคนก็ใจเย็นเหมือนน้ำที่พร้อมเปิดใจรับฟังเด็กๆ

นำทางเขาไปสู่ทางออกที่ดี ไม่เพียงแค่นั้นแต่ต้องขออวยยศนักแสดงทุกคน ตั้งแต่ทีมผู้พิพากษายันเยาวชนแต่ละตอนเลยว่า แสดงออกมาได้เข้าถึงอารมณ์มากๆ ทีมเยาวชนถึงแม้ว่าจะอายุยังน้อย แต่บอกได้คำเดียวเลยว่าพวกเขาเหล่านี้ เล็กพริกขี้หนูอย่างแท้จริง

มาร่วมไขปริศนาและนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีไปกับเหล่าผู้พิพากษา และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ภายในศาลแขวงคดีอาญาเด็กและเยาวชนเขตฮยอนวาใน “Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน” ซีรีส์ผู้พิพากษาคดีเยาวชนอาชญากรเด็ก การพิสูจน์หาความจริงในแต่ละคดี จะดุเดือด ดราม่า และซาบซึ้งขนาดไหน สามารถเข้าไปรับชมได้เลยทาง Netflix

ข่าวสารเพิ่มเติม : ดูบอล